เทศน์เช้า

เกมชีวิต

๑o พ.ค. ๒๕๔๓

 

เกมชีวิต
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

เทศน์เช้า วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๔๓
ณ วัดสันติธรรมาราม ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

วันนี้วันพระต้องวันฟังธรรม ธรรมคือความเตือนสติไง ชีวิตเรานี้สั้นนัก เปรียบเหมือนกับเกม เกมในทีวีนี่ เวลาเราเล่นอะไรก็แล้วแต่เราชนะเกม เขาจะให้เข้าไปเอาทองแค่ ๕ วินาทีหรือ ๑๐ วินาที วิ่งเข้าไปแล้วก็ไปคว้านะ วิ่งไปคว้าทองเอามา มีแค่นั้น ชีวิตนี้เหมือนกัน เกิดมาจนตายก็เท่านั้นล่ะ

ดูอย่างในธรรมบท เห็นไหม เทวดาเขาไปเก็บดอกไม้กัน มันก็มีพวกนางสนมตามไปด้วย แล้วหายไปชั่วคราว พอบ่ายๆ กลับมาก็ถาม “ไปไหนมา” นั่นนะเขาลงมาเกิดนะ ลงมาเกิดเป็นมนุษย์เรานี่ จนเป็นเด็ก จนโตเป็นสาว จนมีครอบครัว จนตายไป เห็นไหม คือว่า ๑๐๐ ปีของเราเท่ากับเขา ๑ วัน แต่นี่มันยังไม่ครบ ๑๐๐ ปีใช่ไหม อย่างมากก็คนละ ๗๐-๘๐ ปีก็ตาย พอตายไปนี่ เห็นไหม ไปเก็บดอกไม้นี่กำลังจะกลับ นี่อู้งาน ไม่มาเก็บดอกไม้ หายไปไหนมา เขาบอกว่าลงมาเกิดเรานี่ชาติหนึ่งแล้ว แล้วก็ตายไป จนกลับขึ้นไปอีก

เห็นไหม นี่ก็เหมือนกับว่า ๕ นาทีหรือ ๑๐ นาทีที่เขาเล่นเกมกันน่ะ เขาตื่นเต้นกันมาก เวลาเขาได้รางวัล ใครจะคว้าทองได้ขนาดไหนได้แค่นั้น นี่ก็คว้ากันใหญ่เลย นี่เหมือนกัน เกิดมานี่ก็เหมือนเรา ๕ นาทีให้เราเป็นมนุษย์ แล้วเราเป็นมนุษย์เราเพลินไหม เราประมาทไหม นี่ประมาทในชีวิตไง นี่เกมของชีวิต ถ้าเกมของชีวิต เราจะทำคุณงามความดีของเรานี่เราทำคุณงามความดีของเราได้ คุณงามความดีของเราไง สิ่งที่เราแสวงหากันนี่ทิ้งไว้ที่นี่

อย่างที่ว่านะ เห็นไหม เขาได้ทำบุญครั้งสุดท้ายก่อนตายนี่ เขายังได้ทำบุญ ถ้าเขาไม่ได้ทำบุญนะ ไอ้เงินที่ทำบุญนั้นมันก็เป็นสมบัติทิ้งไว้ที่นี่แหละ ให้ลูกศิษย์ลูกหาเป็นคนรับสมบัตินั้นไป แต่เขาได้สละออกไปแล้วเห็นไหม เงินแสนนั้นเขาได้สละออกไป หัวใจเขาสละออกไป หัวใจของเขาเป็นคนได้ไป เงินนั้นก็เป็นประโยชน์ของโรงพยาบาลไป นั่นนะสละออกทำคุณงามความดี เกมนี่ เกมในทีวีเข้าไปแสวงหาเท่าไหร่ก็ได้ แต่ในทางธรรมนี่เราสละออกไป เราสละออกไป เราทำคุณงามความดี เราให้เขาไปๆ นี่เป็นเกมที่ว่าเราจะรักษาได้

แต่นี่เราว่า ถ้าทำไมมัน ๕ นาที ทำไมชีวิตหนึ่งนี่ โอ้โฮ มันยาวไกลนัก เวลามันตั้งมาก วันหนึ่งๆ กว่ามันจะล่วงพ้นไปมันแสนทุกข์แสนยาก อันนั้นเพราะว่ามันมีแต่ความทุกข์นี่ ถ้ามีความสุขเวลาเรากินเลี้ยงกัน เวลาเรามีงานกัน ไม่อยากให้มันเลิกนะ อยากจะให้มีงานอย่างนั้นตลอดไป มันเป็นไปไม่ได้ เห็นไหม งานที่เรามีความสุขอยู่ ขณะที่เรามีความสุขอยู่ เราไม่อยากให้ความสุขไม่อยากให้กาลเวลานั้นเคลื่อนไปเลย เวลาอย่างนั้นทำไมเราอยากยึดไว้ล่ะ เวลาเรามีความทุกข์ทำไมอยากให้มันสละออกไป

เพราะความอยากอันนั้นมันไปเร่งเร้าใจ มันทบเท่าทวีคูณไง อย่างเช่น ๑ นาทีมันก็คือ ๑ นาทีนั่นแหละ แต่เพราะความอยากให้ ๑ นาทีนี้เป็น ๕ ชั่วโมง ๑ นาทีเลยมีค่านิดเดียวเลย ความจริง ๑ นาทีมันมีค่าเท่ากับ ๑ นาทีนะ แต่เพราะความอยากให้มันอยู่ได้นานเข้าไป คือว่ามีความสุขมีความพอใจดึงไว้ได้นาน นี่ตัณหา วิภวตัณหา ความอยากมีอยากเป็น ความต้องการ ความผลักไป มันให้ค่าเอง นี่ใจถึงเป็นใหญ่ ใจถึงเป็นประธาน เพราะใจเราเป็นใหญ่

เกมของชีวิต ถ้ามันอยู่ในเกมของความทุกข์มันอยู่ในถึงได้ โอ้โฮ มันถึงยาวไกล ถ้าอยู่ในความสุข อยากให้มันอยู่นานๆ นี่ มันก็...นี่เกมของชีวิต

ถ้าเรามีสติสัมปชัญญะ มันมีเวลาเท่ากันนั่นล่ะ ๒๔ ชั่วโมงคือ ๒๔ ชั่วโมงเท่านั้น ถ้าเรามีสติสัมปชัญญะนี่ ๒๔ ชั่วโมงของเราจะเป็นประโยชน์กับเราทั้งหมดเลย เป็นประโยชน์กับเรา ฟังสิ เราทำคุณงามความดีของเรา เกมชีวิตนี้เวลาตายไปจิตนี้กลับไปเป็นจิตเดิมแท้ จิตที่แสวงหาที่เกิดอีก จิตเดิมแท้นี้ผ่องใส จิตเดิมแท้นี้เป็นผู้ข้ามพ้นกิเลส จิตเดิมแท้นี้ผ่องใส จิตเดิมแท้นี่วนในวัฏวน เห็นไหม จะเป็นวิวัฏฏะออกไปนี่ จิตเดิมแท้นี้เป็นผู้ออกไปวิวัฏฏะ

จิตเดิมแท้คือกิเลสแท้ๆ ตัวนี้ ตัวมันหมุนเวียนไป แต่นี้มันมาเกิดเป็นมนุษย์ เห็นไหม นี่ ๕ นาทีในความเป็นมนุษย์นี่ก็ออกมาทำคุณงามความดีของชีวิตหนึ่ง ๕ นาทีนั้นคือว่าชั่วคราวของวิวัฏฏะนั่นเอง นิดเดียว หลุดออกมาแป๊บเดียวก็กลับไปจิตเดิม จิตเดิมก็ไปเกิดเป็นเทวดา เกิดเป็นพรหม เกิดเป็นเปรต เกิดเป็นอะไร ก็จิตเดิมแท้นี้พาเกิด เพราะเราต้องชำระจิตเดิมแท้นี้ไง เราถึงต้องหาตัวจิตเดิมแท้แล้วแก้ไขตัวจิตเดิมแท้นี้ แก้ไขตัวต้นเหตุนั้น พอสิ้นสุดที่ต้นเหตุนั้นมันก็จบ

เกมของชีวิตมันก็ชั่วคราว แต่ไอ้จิตเดิมแท้นั้น จิตแท้ๆ ไม่เคยตาย จิตนี้เวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารตลอดไป แต่ได้เป็นมนุษย์แล้วเราต้องมีสติสัมปชัญญะ มีสติ เห็นไหม มีสัมปชัญญะ สติสัมปชัญญะคือความเกรงกลัว ความละอาย มีสติส่วนสติ สัมปชัญญะนี่มันรู้รอบครอบไปอีก สติเป็นสติเฉยๆ สติสัมปชัญญะนี่

วันนี้วันพระไง ถึงเตือนสติ เห็นไหม คนเรานี่ คนจะตายก็นึกถึงพระ พุทโธๆๆ คนมีอายุมากขึ้นก็ต้องเข้าวัดเพื่อหาเสบียงกรังต่อไปข้างหน้า แต่เรานี่หาไปตลอดชีวิต คือว่าในเกมๆ นั้น เราไม่พลาดจากความดีของเราเลย ในเกมๆ นั้น ๕ นาที ๑๐ นาทีเข้าไปจะไปหยิบ ไปเดินดูอยู่ กว่าจะเอา...สุดท้ายเอาไม่ทัน

นี่ก็เหมือนกัน ชีวิตจะมาทำตอนแก่ๆ กันไง พอตอนแก่แล้วเราถึงจะทำคุณงามความดีกัน ชีวิตตอนนั้นน่ะมันเป็นชีวิตที่ว่ารับรู้อะไรไว้มาก มันมีผลมาก มันแกะใครได้มาก แล้วอย่างหนึ่งเหมือนคนไข้ คนไข้หนักนี่หมอเขาต้องรักษา ต้องยาเข้มข้นหน่อย คนไข้เริ่มเป็นนี่รักษาง่ายไง เราปฏิบัติตั้งแต่เริ่มต้นขึ้นมานี่ ไข้ก็น้อย ความประพฤติปฏิบัติเราก็ง่าย แล้วมันเริ่มต้นพอเรารู้ว่าไข้ดีหรือไม่ดีนี่เราจะรักษา สิ่งแสลงเราจะไม่กิน แต่ถ้าเราไม่รู้ว่าแสลงมันก็ต้องสะสมไปก่อน ไปสุดท้ายแล้วแก้ยาก

ความแก้ยากอันนั้นมันก็เลยว่า เพราะเราประมาทในชีวิตไง ประมาทในเวลาของเกมอันนี้ เกมที่เราต้องไปให้ได้ดี ถ้าเกมชีวิตเราดี เรามีสติสัมปชัญญะเรารักษาดี การรักษานั้นเท่ากับการบำรุงแล้ว แต่ถ้าตอนแก่ตอนเฒ่ามานี่ สิ่งนั้นมันสะสมไปแล้ว เห็นไหม ไปเอาสิ่งนั้นออก เอาอารมณ์ที่มันข้องใจอยู่นั้นออก ทำความสงบมันถึงทำได้ยากไง ถ้าทำความสงบนาทีแรกนี่ทำได้ง่าย

ความสงบอันนี้เป็นต้นทุนเฉยๆ ความสงบอันนี้เป็นเทคโนโลยี เป็นเครื่องมือเข้าไปจับจิต ความสงบเฉยๆ เข้าไปจับจิตแล้ววิปัสสนาตัวนั้น ตัววิปัสสนานั้นถึงเป็นปัญญา ปัญญาเท่านั้นชำระกิเลส ปัญญาเท่านั้นเป็นผู้แก้ไข สติสัมปชัญญะเป็นสติสัมปชัญญะ เป็นหนึ่งในมรรค ๘ เป็นสัมมาสติ เห็นไหม เป็นสัมมาทุกอย่าง เป็นสัมมาคือความถูกต้อง แล้วเข้าไปจับตัวนั้นแล้ว มรรค ๘ เห็นไหม ต้องความเพียรชอบ ความเพียรชอบ ความดำริชอบ การงานชอบ (เทปสิ้นสุดเพียงเท่านี้)